ครั้งแรกที่ได้ยินคำว่า โมโกจู คือคุณพ่อเป็นคนเล่าให้ฟังว่า ถ้าชอบเดินทางท่องเที่ยวเนี่ย ภูกระดึงน่ะแค่ระดับเด็กอนุบาล ลองไป โมโกจู สิ นี่ละของจริง ถ้าพูดถึง การเดินป่าที่โหดสุดๆ ก็ต้องตำนานหินเรือใบบนยอดเขาโมโกจู ซึ่งในสมัยก่อนนักเดินป่าจำนวนมากต้องการที่จะขึ้นมาพิชิตหินเรือใบแห่งนี้ ต้องเดินเท้าบุกลุยผืนป่ากว่า60กิโลเมตรด้วยระยะเวลา 5วัน4คืน ซึ่งเรียกได้ว่าการจะขึ้นมาพิชิตหินเรือใบบนยอดเขาโมโกจูแห่งนี้ ความยากและโหดเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย หลังจากนั้นเราก็เฝ้าติดตามหาข้อมูล เตรียมอุปกรณ์และฟิตซ้อมร่างกายมาตลอด3ปี จนวันที่ 8 พฤศจิกายน 2557 ก็ได้มีโอกาสไปพิชิตตำนานหินเรือใบบนยอดเขาโมโกจูสักที
| หินเรือใบ ยอดเขาโมโกจู 10 พฤศจิกายน 2557 |
การจะได้เดินทางเข้ามาพิสูจน์ตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะในแต่ละปี จะกำหนดโควต้าให้นักท่องเที่ยวทั่วไปขึ้นได้จำนวนจำกัดเท่านั้น โดยในปีที่ผ่านมา โควต้าเปิดให้เพียง15รอบ รอบละ2กลุ่ม กลุ่มละ12คน ในระยะเวลา4เดือน คือพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ดังนั้นปีนี้ตามจำนวนโควต้า จะมีนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสขึ้นไปพิชิตตำนานแห่งขุนเขาตะวันตกแห่งนี้เพียง360คนเท่านั้น ซึ่งโควต้าเต็มอย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยววินาทีที่ทางอุทยานแห่งชาติเปิดรับจองโควต้ากันเลย ที่ได้มาในปีนี้ก็เพราะโชคช่วยสุดๆ ทริปที่จองไว้ครั้งแรกเต็มหมด คิดว่าจะไม่ได้มีโอกาสขึ้นซะแล้ว เลยเข้าไปดูในแฟนเพจของอุทยานแห่งชาติแม่วงก์หวังว่าอาจจะมีคนหาสมาชิกเพิ่มจะขอแจมทริปไปด้วย มีพี่คนนึงประกาศหาสมาชิกเพิ่มว่าง2ที่ เลยตัดสินใจทักไปทันทีว่ายังมีที่ว่างอยู่ไหม ตั้งหน้าตั้งตารอคำตอบและโชคดีสุดๆที่เหลือที่ว่างและคอมเฟิร์มทัน เกือบโดนตัดหน้าไปซะแล้ว
สำหรับการเดินทางนั้น แบ่งออกเป็น3ช่วง
ช่วงแรกเป็นเส้นทางเนินขึ้น-ลงตามมอต่างๆ ผ่านธารน้ำสายเล็กๆหลายสาย เส้นทางเป็นดินโคลนค่อนข้างเละเทะถ้าเกิดฝนตก ระยะทางกว่า16-22กิโลเมตร มุ่งหน้าสู่แคมป์แม่กระสา
ช่วงที่สองเป็นเส้นทางป่าไผ่ ระยะทางราวๆ4-5กิโลเมตร ผ่านธารน้ำแม่กระสา ผ่านธารน้ำแม่กี สามารถแวะพักและดื่มน้ำ ล้างหน้าล้างตากันได้ที่นี่ น้ำเย็นสบายสดชื่นมากๆ เส้นทางนี้เป็นทางราบมีเนินขึ้น-ลงเป็นระยะๆไม่ชันมาก เดินสบายๆ มุ่งหน้าสู่แคมป์ที่สอง แคมป์แม่เรวา
ช่วงที่สามมุ่งหน้าสู่แคมป์เคียงดอย ซึ่งตั้งห่างจากยอดโมโกจูราวๆ1กิโลเมตร ถือได้ว่าเป็นเส้นทางที่โหดที่สุดของการเดินทางในครั้งนี้ ระยะทาง9กิโลเมตร ใช้เวลากว่า9-12ชม. เส้นทางภูกระดึงที่ว่าชัน เทียบไม่ได้กับเส้นทางแห่งนี้ที่ชันยิ่งกว่า หนักยิ่งกว่าหลายเท่า และการเดินที่ยากลำบาก ทั้งดินที่ลื่นและหนืด ทำให้ดึงแรงของเราให้ลดลงอย่างรวดเร็ว
จากเดิม กำหนดการเดินป่าโมโกจู เป็นระยะเวลา5วัน4คืน
โดยวันแรก จะเดินในช่วงแรก ไปตั้งแคมป์ที่แม่กระสานอน1คืน
วันที่สอง ไปตั้งแคมป์ที่แม่เรวา และเดินไปเที่ยวเล่นน้ำตกแม่เรวา
วันที่สาม เดินขึ้นแคมป์เคียงดอย
วันที่สี่ เดินขึ้นยอดโมโกจูตอนเช้า และเดินลงแคมป์แม่กระสา
วันที่ห้า เดินทางกลับที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่วงก์
แต่ปีนี้ได้เปลี่ยนกำหนดการใหม่ ซึ่งกำหนดให้เดินทาง3วัน2คืนแทนการเดิน5วัน4คืน โดยจะมีรถแทรกเตอร์รับ-ส่งให้ในช่วงแรก ถึงแคมป์แม่กระสา (ความคลาสสิคหายไปเลย อยากเดิน5วัน4คืนมากกว่า แต่ความโหดก็น้อยลงไป ได้ความมันกลับมาแทน เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลังนะ)
โดยกำหนดการนี้ทางอุทยานแห่งชาติแม่วงก์อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละปีอาจจะกลับมาเดิน5วัน4คืนเหมือนเดิมก็ได้
เตรียมของ จัดกระเป๋ากัน
ก่อนอื่นรีบเช็คพยากรณ์อากาศก่อนเลย ซึ่งเป็นโชคร้ายสุดๆเลยก็ว่าได้ ที่เกิดมรสุมพายุเข้าที่อ่าวเบงกอล ทำให้เกิดฝนตกหนักในช่วงที่เราจะไปพอกันดีเลย ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมตัวรับมือในกรณีที่เกิดฝนตก ซึ่งในใจก็คิดว่าคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก เพราะส่วนตัวลุยฝนบ่อย แต่ครั้งนี้เราคิดผิด...
ส่วนเรื่องเสบียงอาหาร พวกเราต้องเตรียมกันเองตลอด3วัน ปรึกษากันในกลุ่มแล้ว ลงตารางเมนูอาหารแต่ละมื้อแต่ละวันและประเมินเสบียงที่พวกเราต้องเตรียมไป คงต้องเน้นพวกอาหารแห้งและอะไรที่ทำง่ายๆ
อย่างที่เห็นครับ ของเยอะมาก เต้นท์ ถุงนอน เสื้อกันหนาว ถุงมือ หมวก ถุงเท้า ชุดนอน อุปกรณ์เครื่องครัว หม้อ กระทะ กาต้มน้ำ จาน ช้อนส้อม กล่องข้าว เตาแก๊ส กระป๋องแก๊ส กระเป๋ากล้อง ขาตั้งกล้อง ไฟฉาย แบตสำรอง เสื้อกันฝน ถุงกันทาก เครื่องอาบน้ำ ไม้เท้าเดินป่า รวมๆแล้ว15kg.ครับ (ไม่รวมน้ำ3ขวดนะครับ)
| ยัดทั้งหมดด้านบนแล้วเหลือเท่านี้ |
| พร้อมจะลุยแล้ว @สถานีขนส่งหมอชิต |
การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ นั่งรถบขส. ลงตลาดคลองลาน ถึงตลาดคลองลานประมาณตี4 มองดูท้องฟ้าเหมือนฝนจะตก ใจไม่ดีขึ้นมาทันที แล้วพวกเราก็เดินซื้อของและเสบียงอาหารที่ตลาด แวะ7-11เล็กน้อย และกินอาหารเช้ากัน ประมาณ6โมงเช้า รถจากอุทยานออกมารับ (ติดต่อขอรถมารับที่ตลาด ไป-กลับ1200บาท) ระหว่างทางมีฝนตกปอยๆลงมานิดหน่อย
ตอนเช้า ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่วงก์
หลังจากถึงอุทยานแห่งชาติแล้ว ก็ทำกิจธุระส่วนตัวกัน รอรถแทรกเตอร์มารับพวกเรา ล้างหน้าแปรงฟัน เดินเล่นถ่ายรูปกัน และจัดเตรียมของให้ลูกหาบ ฟ้าสว่างสดใส เมฆฝนหายไป คิดในใจ โชคดีแฮะ ทริปนี้อาจจะไม่เจอฝนก็ได้ ฟ้าใสขนาดนี้คงไม่ตกหรอก แต่แล้วก็เกิดปัญหาอื่นแทน นั่นก็คือ เราขอลูกหาบจากทางอุทยานไปแค่3คน คำนวนแล้วค่อนข้างจะพอดีกับน้ำหนักที่เราประมาณไว้ ซึ่งเราได้เฉลี่ยน้ำหนักแล้วประมาณ16-17กิโลต่อคนเท่านั้น แต่ลูกหาบมาแค่2คน ทำให้ลูกหาบเราต้องรับภาระหนัก โดยจนท.อุทยานประจำกลุ่มของเราก็มาช่วยแบกไปด้วย เมื่อจัดของเสร็จ รถแทรกเตอร์มาถึงก็ขนของขึ้นท้ายรถกัน เตรียมตัวออกเดินทางได้
เคยได้ยินอยู่ว่าลูกหาบขึ้นโมโกจูนั้นหายาก แต่ไม่คิดว่าแจ้งขอล่วงหน้าไปแล้วกลับมาไม่ครบ
เคยได้ยินอยู่ว่าลูกหาบขึ้นโมโกจูนั้นหายาก แต่ไม่คิดว่าแจ้งขอล่วงหน้าไปแล้วกลับมาไม่ครบ
| น้องผีเสื้อออกมาส่งเราที่รถ |
| หลังจากเคลียร์ของส่วนกลางและเต้นท์ให้ลูกหาบแล้ว น้ำหนักเป้อยู่ที่ 12กิโล (ไม่รวมกล้องและน้ำ) |
| อีกกลุ่มนึง ตามมาติดๆ |
| สภาพเส้นทาง |
เส้นทางช่วงแรก มุ่งหน้าสู่แคมป์แม่กระสานั้น เป็นเส้นทางไกลเกือบ20กิโลเมตร และเส้นทางเป็นดินเหนียวปนทราย ผ่านธารน้ำต่างๆหลายสาย ถ้าเกิดฝนตก เส้นทางจะเละมาก จึงต้องใช้รถแทรกเตอร์ในการเคลื่อนย้าย (ถ้าเดินเองละก็ไม่อยากจะคิดสภาพเลยจริงๆ)
สภาพป่ามีทั้งป่าไผ่ ป่าเบญจพรรณตลอดเส้นทาง ได้เห็นต้นไม้สูงใหญ่นับสิบๆเมตรมากมาย แค่เข้ามาไม่ไกลก็ได้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแห่งนี้แล้ว แสงที่ทอดผ่านเงาไม้มา ให้บรรยากาศอีกแบบนึง ที่ทำให้เรารู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ
![]() |
| น้องตั๊กแตนมาทักทายบนรถเลย |
| ยังเจอพี่งูเหลือมตัวใหญ่มาก แต่ดูเหมือนพี่แกจะขี้อาย เลื้อยหนีพวกเราซะงั้น |
พอผ่านช่วง4กิโลแรกมาได้แล้ว เริ่มจะมีปัญหากับการเดินทางแล้ว นั่นคือสภาพเส้นทางที่ย่ำแย่เนื่องจากฝนที่ตกในช่วงนี้ ทำให้เส้นทางเละเทะและลื่นมากๆ ด้วยน้ำหนักของสัมภาระและพวกเรา ทำให้รถแทรกเตอร์ไม่สามารถผ่านเนินสูงๆชันๆไปได้ ดังนั้นพวกเราจึงต้องลงเดินในช่วงที่รถติดและผ่านไปไม่ได้
รถติดหล่มขึ้นไม่ได้ ก็ลงเดินสิครับรออะไร 5555
เดินเรียงแถวกันเลยทีเดียว เพราะทางเละมากจริงๆ
ระหว่างการเดินทางนั้น พี่ยาและลุงนงค์ ลูกหาบ2คนของเรา กระโดดลงจากรถและรีบวิ่งลงไปเก็บอะไรบางอย่างขึ้นมา ซึ่งนั่นก็คือ.....
สมบัติแห่งผืนป่า เห็ดโคนป่า นั่นเอง!!
| และพวกเราก็ไม่ลืมที่จะแวะขุดสมบัติกันตลอดทาง |
จนได้มาเต็มถุงขนาดนี้
| ได้วัตถุดิบชั้นเลิศสำหรับมื้อเย็นวันนี้แล้ว |
ในช่วงที่รถแทรกเตอร์ติดหล่มและพวกเราลง พี่จนท.และลูกหาบจะช่วยกันขย่มคันไถหน้าด้านรถเพื่อให้เพาล้อหน้ามีแรงกดพอที่จะดึงรถขึ้นจากหล่มให้ได้ พวกเราก็ส่งเสียงเชียร์กันอย่างสนุกสนาน
พวกเรายังคงไปต่อด้วยความยากลำบาก ยิ่งชันยิ่งลื่น ระยะทางชันยิ่งไกลขึ้น ขึ้นๆลงๆรถแทรกเตอร์หลายรอบจนเริ่มเหนื่อย และการเดินบนดินเหนียวที่เละๆนี่ก็กินแรงใช่เล่นเลยละ กว่าจะผ่านแต่ละมอไปได้ ลุ้นกันสุดๆทุกๆเนินเลย
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ เริ่มคุยกันละว่ายังไม่ถึงอีกหรอ นี่ก็ผ่านมาแล้วกว่า3ชม. และแล้วพวกเราก็มาถึง แคมป์แม่กระสา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการเดินเท้าของพวกเรา ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยง ดังนั้นพวกเราจึงพักทานข้าวกลางวันกันที่นี่ก่อน
| แคมป์แม่กระสา |
| พักทานอาหารกลางวันกัน |
จากซ้ายคนที่สองคือลุงแดง และคนที่หก คือพี่รุ่ง 2จนท.นำทางประจำกลุ่มของพวกเราครับ กลุ่มเราผู้ชาย3 ผู้หญิง9!! และน้องอายุน้อยสุดของเราคือน้องเอฟ อายุ17เท่านั้น!! สุดยอดมากครับ
![]() |
| ทริป 2 กลุ่ม 2 พร้อมลุย |


แก้คำผิด
ReplyDelete*เห็ดโคนป่า
รีบมาเขียนต่อไวไว พี่รออ่านนะ ^^
แก้แล้วครับ ขอบคุณมากครับ ^_^
Delete